เจ๋งจริงต้องไม่เลือกค่าย CEO ของบริษัทผลิตลำโพงอัจฉริยะ Sonos

Highlights from the Vergecast interview with Sonos CEO Patrick Spence
เจ๋งจริงต้องไม่เลือกค่าย CEO ของบริษัทผลิตลำโพงอัจฉริยะ Sonos เผย เน้นพัฒนาเพื่อรองรับระบบผู้ช่วยอิเล็กทรอนิกส์ได้หลากลาย

Patrick Spense CEO ของบริษัท Sonos บริษัทผลิตลำโพงอัจริยะ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับ Nilay Patel หัวหน้าบรรณาธิการบริษัท The Verge

บริษัท Sonos นั้น เติบโตมาจากการพัฒนาลำโพงอัจฉริยะ โดยล่าสุด พวกเขาได้พัฒนาลำโพงรุ่นใหม่ ที่เป็นรูปแบบ Sound Bar ขึ้นมา สนนราคาที่ประมาร 13,160 บาท

อย่างไรก็ตาม ในยุคปัจจุบันที่ลำโพงอัจฉริยะนั้น ได้รับความนิยม และมีคู่แข่งรายใหญ่ๆเข้ามาทำตลาดนี้มากมาย อาทิ Apple, Amazon, Google และ อีกมากมาย

หลายๆบริษัทยักษ์ใหญ่นั้น พัฒนาลำโพงอัจฉริยะขึ้นมาเพื่อรองรับการใช้งานผู้ช่วยที่รับคำสั่งผ่านเสียงของพวกเขา อย่าง Siri ของ Apple, Alexa ของ Amazon และ Google Assistant ของ Google แต่กับ Sonoa s นั้นแตกต่างออกไปพวกเขาไม่ได้พัฒนาผู้ช่วยที่รับคำสั่งเสียงของตนเองขึ้นมา แต่พวกเขาพัฒนาลำโพงที่รองรับการใช้งานร่วมกับผู้ช่วยที่รับคำสั่งเสียงของบริษัทไหนก็ได้ ที่สำคัญล่าสุด พวกเขาพัฒนา Sonos One ลำโพงอัจฉริยะที่สามารถใส่ผู้ช่วยลงไปได้ 2 ตัว พร้อมกับ อาทิเช่น Google Assistant ทำงานร่วมกับ Alexa หรือ Siri ทำงานร่วมกับ Google Assistant เป็นต้น อย่างไรก็ตามมันยังไม่ได้ถูกวางขายออกมา ซึ่งทาง Sonos ยืนยันว่าจะวางขายในปีนี้อย่างแน่นอน

Spense บอกว่า เป้าหมายของ Sonos คือการรองรับความหลากหลายให้ได้มากที่สุด ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องผู้ช่วยผ่านการสั่งการด้วยเสียงเท่านั้น แต่มันยังรองรับการใช้งานกับผู้ให้บริการที่หลากหลาย ทั้งผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต ผู้ให้บริการเพลงออนไลน์ และผู้ให้บริการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่หลากหลาย

Spense เน้นว่า ความหลากหลายนั้นสร้างความแข็งแกร่ง เขายกตัวอย่างกรณีของ ผู้ช่วยผ่านการสั่งการด้วยเสียงว่า ในขณะที่ Google Assistant นั้น เก่งในเรื่องการเรียนรู้คำถามแปลกๆของเจ้าของ ส่วน Alexa นั้น เก่งในเรื่องควบคุมอุปกรณ์ไอทีต่างๆ ซึ่งการที่มันทำงานด้วยกันได้ย่อมดีกว่าเดิมแน่นอน เพราะคงจะไม่มีวันที่แต่ละตัวจะเก่งกว่าตัวอื่นไปได้หมดทุกเรื่อง และที่สำคัญ ในอนาคต ไม่ว่าใครชนะ หรืออยู่รอด Sonos ก็ยังคงอยู่

ล่าสุด Sonos ได้พัฒนาให้ลำโพงอัจฉริยะของตนเองรองรับระบบ Air Play 2 ในการเล่นเสียงผ่านอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS และ MacOS ของบริษัท Apple ได้แล้ว หลังจากบริษัท Apple เปิดตัวระบบนี้มาได้แค่ 10 กว่าวัน เท่านั้น

Spense เผยว่า ปัญหาที่ยากที่สุดในตอนนี้ คือการทำงานร่วมกับ Siri ผู้ช่วยผ่านการสั่งการด้วยเสียงของบริษัท Apple เนื่องจากแม้ว่าบริษัท Sonos จะมีความสัมพันธ์อันดีกับบริษัท Apple แต่บริษัท Apple นั้นค่อนข้างเคร่งครัดมากเรื่องการเอาระบบของตนเองไปไว้ในสินค้าของบริษัทนอก ซึ่งแน่นอนว่า ในปัจจุบัน Sonos อาจจะใช้ศักยภาพในการใช้งานร่วมกับ อุปกรณ์ของบริษัท Apple ได้ไม่เต็มที่ แต่ที่บริษัทได้มาก็มากเกินกว่าที่บริษัทอื่นๆได้มามากแล้วจากการให้สิทธิของบริษัท Apple

เมื่อถูกถามถึงการเข้าไปทำตลาดเครื่องเสียง Home Theater อัจฉริยะประจำบ้าน Spense กล่าวว่า มันยังไม่มีความจำเป็นในตอนนี้ ถ้ามีความจำเป็นเมื่อไหร่ เราจะไม่รีรอเลย การทำให้ลำโพงเสียงดี ไม่ใช้การทำตามกระแส แต่ต้องตามความรู้สึกที่ลูกค้าเราอยากจะได้จริงๆ

ด้านการออกแบบนั้น Sonos ได้รับความร่วมมือกับบริษัทผลิตเครื่องใช้ในบ้านชื่อดังของโลกอย่าง IKEA ซึ่ง Spense กล่าวว่า ถ้าเราเสียงไม่ดีจริง IKEA ไม่มาร่วมมือด้วยหรอก

ลำโพง Sonos นั้นจะประมวลผลลักษณะห้องที่มันอยู่จากการใช้ไมโครโฟนในตัวมันและไมโครโฟนจากอุปกรณ์ที่มันเชื่อมต่ออยู่ และจะปรับลักษณะและความดังของเสียงตามลักษณะห้องที่มันถูกวางเอาไว้ โดยในการตั้งค่าเพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด ผู้ใช้งานจะต้องเชื่อมมันกับอุปกรณ์ไอทีของตนเอง และเดินไปรอบๆห้องจนกว่ามันจะส่งเสียง beep และเสียงเฉพาะที่ตามมา เพื่อให้ทราบว่า มันประมวลผลเสร็จแล้ว ซึ่งแนวคิดดังกล่าวของ Sonos ได้ถูกเอาไปทำตามแล้ว โดยลำโพงอัจฉริยะของ Apple กับ Google แตกต่างกันก็คือ ของสองเจ้าหลังนี้นั้น จะประมวลผลเองอย่างเดียว ไม่มีบังคับให้เจ้าของเครื่องต้องเดินวนรอบห้อง ซึ่ง Spense เองก็ตอบว่า ถ้าอนาคตคนชอบอย่างนั้นกัน เราก็ทำให้ได้ โดยตอนนี้เราพัฒนาระบบ quick start ที่รองรับคนที่ต้องการเปิดมาแล้วใช้งานได้เลยมาให้แล้วเป็นทางเลือก

cr. https://www.theverge.com/2018/6/15/17465084/sonos-ceo-vergecast-interview-google-assistant-siri-atmos